พบเด็กหญิง 12 ปีโดนทิ้งริมถนนตามเนื้อตัวมีรอยฟกช้ำบอกยายกับตาพามาปล่อยทิ้งไว้พลเมืองดีมาพบพาตามหาญาติ   

    

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งมีเด็กหญิงอายุ 12 ปี ถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้ อยู่ที่ริมถนนในหมู่บ้านตำบลด่านช้าง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู ห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ จุดที่เกิดเหตุสลด มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 ประมาณ 7 กิโลเมตร และตามเนื้อตัวของเด็กหญิง มีรอยฟกช้ำคล้ายๆกับโดนทำร้ายร่างกาย

      หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบพบนางสาวสุวรรณา สมมาจันทร์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ 6 บ้านหนองด่าน ตำบลด่านช้าง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู โดยมีเด็กหญิงเอ อายุ 12 ปี ( นามสมมุติ) หลานสาว นั่งอยู่ข้างๆซึ่งอยู่ในอาการหวาดผวา ตามเนื้อตัวมีรอยฟกช้ำบริเวณ คอ,ขา ,แขน,ใบหู และที่นิ้วมือ โดยนางสุวรรณา สมมาจันทร์ ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองมีน้องชายชื่อว่านายสุเมธ พวงจันทร์ ได้แต่งงานกับนางนิ่ม (นามสมมุติ) และมีบุตรด้วยกัน 1 คน คือเด็กหญิงเอ หลังจากอยู่กินกันได้สักพักจึงได้แยกทางกัน

ขณะนั้นเด็กหญิงเอ อายุประมาณ 4 ขวบ โดยมีนางบัวเรียน ซึ่งเป็นย่า ได้รับเลี้ยงดู และให้เข้าโรงเรียนอยู่ที่ตำบลด่านช้าง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู พอถึงอายุ 8 ขวบ นางนิ่ม ซึ่งเป็นมารดาได้ลงมารับเด็กหญิงเอ โดยแจ้งว่าจะพาไปเลี้ยงเอง โดยได้นำไปอยู่ด้วยที่จังหวัดชลบุรี ส่วนนายสุเมธ พวงจันทร์ พ่อของเด็กหญิงเอ และเป็นน้องชายของตนเอง ลงไปทำงานที่กรุงเทพฯ ส่วนนางนิ่ม มารดาของเด็กหญิงเอ ได้ไปมีสามีใหม่ 

     โดยนางสาวสุวรรณา สมมาจันทร์ ผู้เป็นป้า ได้กล่าวต่ออีกว่า ตั้งแต่นั้นมา ตนเองก็ไม่เห็นหน้าหลานอีกเลย จนในช่วงเช้ามึด ได้มีผู้นำหมู่บ้านได้นำหลานของตนเองมาส่ง ตนเองก็ตกใจจึงถามเด็กหญิงเอ ว่ามายังไง เด็กหญิงเอ ได้บอกว่าตากับยาย ได้ขับรถ นำตนมาทิ้งไว้ที่ริมถนน ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหนเพราะมึดมากๆ โดยหลาน ได้เล่าให้ฟังว่า หลังจากที่ลงไปอยู่กับแม่ที่จังหวัดชลบุรี ก็โดนยาย และพ่อเลี้ยงทุบตีอยู่ตลอด โดยเด็กหญิงเอ ได้ชี้ที่บริเวณลำคอเป็นรอยช้ำๆและบอกว่ายายเป็นคนบีบ และที่บริเวณขาทั้ง 2 ข้าง โดนพ่อเลี้ยงใช้ไม้หน้า 3 ตี และบริเวณใบหูโดนยายดึงและหยิก จนเป็นแผลยังมีรอยเลือดซึมๆอยู่ และที่นิ้วมือบริเวณเล็บถูกยายใช้ไม้แขวนเสื้อตี จนช้ำเลือดช้ำหนอง โดยเด็กหญิงเอ ได้บอกว่าอยู่ที่บ้านช่วยทำงานบ้าน ล้างจานกวาดบ้านถูบ้าน แต่ถ้าเกิดทำอะไรไม่พอใจ จะโดนผู้เป็นยายและพ่อเลี้ยงทุบตี และให้นอนหนาวอยู่ที่หน้าบ้าน ไม่ให้เข้ามานอนในบ้าน ซึ่งตนเองได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นากลาง และพาหลานไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ไว้แล้ว และยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

     จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบจุดที่เด็กหญิงเอ ถูกปล่อยทิ้งไว้ พบว่าเป็นหน้าบ้านของคุณอ๋อย พลเมืองดี ที่พบเด็กหญิงเอ เป็นคนแรกได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ในช่วงเช้าของวันที่ 22 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 04.00 น.ขณะที่ตนเองกำลังจะไปตลาด ได้ยินเสียงผู้หญิงกับผู้ชายเถียงกันอยู่ภายในรถเก๋งสีขาว จับใจความได้ว่า  ( จำไม่ได้เหรอว่า บ้านป้าอยู่ตรงไหน ทำไมโง่จัง ) ตนเองจึงคิดว่าเป็นการพูดคุยกันธรรมดา หลังจากนั้นรถเก๋งคันสีขาวก็ได้ขับออกไป จากนั้นตนเองสังเกตุเห็นว่า มีคนเดินไปเดินมาอยู่ที่ถนนหน้าบ้าน ซึ่งยังมึดอยู่

จึงได้เดินออกไปพบเด็กหญิงเอ ยืนตัวสั่นด้วยความหนาว เพราะใส่เสื้อแขนสั้น และมีถุงกระสอบปุ๋ยใส่เสื้อผ้ากองอยู่ที่พื้น ยืนกอดสูติบัตร ( ใบเกิด ) แน่นอยู่ที่หน้าอก ตนจึงพาเข้ามาพักในบ้านและหาเสื้อกันหนาวให้ใส่ ตนจึงสอบถามเด็กหญิงเอ ได้บอกว่ามากับตาและยาย และยายควักเงินให้ 200 บาท บอกว่าให้รออยู่ที่นี่  เดี๋ยวยายจะส่งเงินมาให้ใช้อีก  คุณอ๋อยจึงได้ดูที่ใบเกิด จึงเห็นชื่อพ่อของเด็ก และบ้านเลขที่ จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้าน มารับตัวเด็กหญิงเอ ไปส่งที่บ้านญาติซึ่งเป็นบ้านป้า คือนางสาวสุวรรณา สมมาจันทร์

    ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปที่ พ.ต.อ.จักรพรรดิ วิจิตรไวทยะ ผกก.สภ.นากลาง ได้แจ้งว่าขณะนี้ตนเองทราบเรื่องแล้ว และได้นัดญาติของเด็กหญิงเอ มาสอบสวนเพิ่มเติม ในช่วงกลางวัน และเนื่องจากผู้เสียหายเป็นเยาวชน ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และถูกทำร้ายร่างกายมาจากจังหวัดชลบุรี ในพื้นที่ที่เกิดเหตุ จึงต้องมีทีมสหวิชาชีพ ในการร่วมสอบสวน และตนเองรับปากว่าจะทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป.

#ภาพ/ข่าวและเนื้อหานี้ เป็นการใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่องานประชาสัมพันธ์ ไม่แสวงหาผลกำไรในทางการค้า