ตำรวจหนองบัวลำภูแจ้งคดีเรื่องมีผู้เสียหายนำรถไปจำนำแล้วไปไถ่ถอนไม่ได้รถคืนคดีคืบหน้าไปมาก
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสืบเนื่องมีผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความ เรื่องนำรถไปจำนำแล้วพอจะไปไถ่ถอนไม่ได้รถคืน ผู้เสียหายบางรายได้โอนเงินไปแล้ว เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ. เมืองหนองบัวลำภู และก่อนหน้านี้ผู้เสียหายได้เดินทางไปร้องเรียน และออกรายการสดกับคุณเกรียงไกร ไทยอ่อน ในรายการพูดจาประสาชาวบ้าน ให้ช่วยเหลือและเตือนภัยขบวนการรับจำนำรถ ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนมูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท จากนั้นได้เดินทางไปที่กองบังคับการปราบปราม (กองปราบปราม) กรุงเทพฯ เพื่อแจ้งความให้เจ้าที่ตำรวจได้ติดตามนำรถคืนกลับมาให้ด้วย
ในวันนี้ พ.ต.อ.เกียรติภูมิ สุวรรณไตรย์ ผกก.สภ.เมืองหนองบัวลำภู ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เบื้องต้นก่อนหน้านี้สื่อมวลชนได้นำผู้เสียหายทั้งหมดกว่า 10 ราย เข้าพูดคุยกับตนเองที่ห้องทำงาน ตนเองได้เรียกหัวหน้างานสวนสอบ สภ. เมืองหนองบัวลำภูพร้อมพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่รับแจ้งมารับข้อมูลทั้งหมด และได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้เสียหายในเบื้องต้นที่มาแจ้ง มีหลักฐานชัดเจน และเหตุเกิดในพื้นที่ของจังหวัดหนองบัวลำภู ดำเนินการไปแล้วหลายราย
ส่วนที่มีข่าวว่าพนักงานสอบสวนบางคนสนิทสนมกับผู้ถูกกล่าวหานั้น ตนเองได้สอบถามแล้วเป็นการออกหมายเรียกให้ผู้ถูกกล่าวหามาพบกับพนักงานสอบสวน เป็นการพบกันครั้งแรก ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนแต่อย่างใด เพราะเจ้าหน้าที่ต้องเป็นกลางพูดคุยกับทุกฝ่าย ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ส่วนหลักฐานจะถึงผู้ถูกกล่าวหา และผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดเลย หรือพื้นที่ใกล้เคียง ตำรวจจะได้ออกหมายเรียกมาสืบสวนขยายผล มารับทราบข้อกล่าวหา ขอให้มั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ.ต.อ.เกียรติภูมิ สุวรรณไตรย์ ผกก.สภ.เมืองหนองบัวลำภู ได้กล่าวทิ้งท้าย
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ร.ต.อ.สุรชาติ ไชยทองรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ. เมืองหนองบัวลำภูได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า ในส่วนของตนเองได้รับเป็นคดี แล้วทั้งหมด 4 ราย และได้แจ้งข้อกล่าวหา และออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาไปแล้ว ส่วนผู้เสียหายที่มาแจ้งความบางคน เหตุเกิดในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และบึงกาฬ ก็แนะนำให้ไปแจ้งความในพื้นที่ที่เกิดเหตุ ในเบื้องต้นตนเองได้แจ้งข้อกล่าวหาไป 3 ข้อหาคือ
1.ให้กู้เงินโดยเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด 2.ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลังโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ยักยอกทรัพย์ และจะได้ดำเนินการเร่งสอบส่วนเพิ่มเติมผู้เสียหายและออกหมายเรียก ถ้าไม่มาจะได้ออกหมายจับ ผู้ถูกกล่าวหารายนี้ต่อไป ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป.
#ภาพ/ข่าวและเนื้อหานี้ เพื่อกิจการสื่อมวลชน เป็นการใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่องานประชาสัมพันธ์ ไม่แสวงหาผลกำไรในทางการค้า.