เด็กชาย 14 ปีเมาสารเสพติดทำร้ายแม่บังเกิดเกล้าตำรวจร่วมฝ่ายปกครองลงพื้นที่ช่วยเหลือนำส่งบำบัด  

เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งเด็กชายทำร้ายแม่ที่ ต.หนองภัยศูนย์ อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 191 สภ.เมืองหนองบัวลำภู จึงออกไประงับเหตุ พบกับนาง เอ (มารดา นามสมมุติ) และเด็กชาย บี อายุ 14 ปี (ผู้ก่อเหตุ นามสมมุติ) โดยนางเอ มารดา มีบาดแผลฟกช้ำที่ใบหน้า จากการสอบถามข้อมูล ผู้ก่อเหตุได้ให้ข้อมูลยอมรับว่าเสพยาเสพติด และมีอาการโมโหที่มารดา ไม่ได้ทำกับข้าวไว้ให้กิน จึงได้ชกไปที่ใบหน้าของมารดา 1 ครั้งและได้ทำลายข้าวของภายในบ้าน เพื่อนบ้านเห็นเหตุการณ์ รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุทันที และได้นำส่งโรงพยาบาลหนองบัวลำภู

     เมื่อได้รับแจ้งเหตุอำเภอเมืองหนองบัวลำภู โดยนายนิติปกรณ์ แสงสุวรรณ นายอำเภอเมืองหนองบัวลำภู ได้มอบหมายให้นางสาวโชติกา พรมเพิก ปลัดอำเภอประจำตำบลหนองภัยศูนย์ พร้อมชุดปฎิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเมืองหนองบัวลำภู เดินทางไปที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภู ลงพื้นที่ช่วยเหลือ จากการสอบถามมารดา ผู้ก่อเหตุ ได้ให้ข้อมูลว่าลูกชายไม่ได้เรียนต่อ จบประถมศึกษาที่ 6 ปัจจุบันว่างงาน มีการเสพยาเสพติด เป็นระยะเวลา 2 - 3 ปี และทำร้ายร่างกายมารดาอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังไม่เคยบำบัดรักษายาเสพติด จึงอยากให้ลูกชายบำบัดรักษายาเสพติด

     โดยนางสาวโชติกา พรมเพิก ปลัดอำเภอประจำตำบลหนองภัยศูนย์ นั่งสนทนาสังเกตเห็นมารดา มีอาการช้ำที่ใบหน้า จึงได้สอบถามว่าได้รักษา หรือให้คุณหมอตรวจร่างกายหรือไม่ เจ้าตัวบอกว่าไม่ได้นำบัตรประชาชนมาด้วย จึงไม่ได้พบแพทย์ ทางอำเภอเมืองหนองบัวลำภู จึงได้พามารดาผู้ก่อเหตุไปติดต่อทำบัตรเพื่อเข้ารักษาต่อไป

    แนวทางช่วยเหลือเบื้องต้นเด็กชาย 14 ปี การบำบัดรักษายาเสพติด โดยโรงพยาบาลหนองบัวลำภู จะมียาให้กิน และต้องมาพบแพทย์อย่างต่อเนื่อง อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จะประสาน รพ.สต.ดอนยานาง และ อสม. กำกับการกินยาอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของการฝึกอาชีพ และจัดหางานให้กับผู้ก่อเหตุ อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จะประสานสำนักงานจัดหางาน และสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อหาอาชีพให้ผู้ก่อเหตุต่อไป หลังจากที่คุณหมอประเมินอาการของผู้ก่อเหตุ และให้กลับบ้านได้ อำเภอเมืองหนองบัวลำภูจะได้ประสานให้ 5 เสือ ในตำบล ลงพื้นที่เยี่ยมและช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องต่อไป.

#ภาพ/ข่าวและเนื้อหานี้ เพื่อกิจการสื่อมวลชน เป็นการใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่องานประชาสัมพันธ์ ไม่แสวงหาผลกำไรในทางการค้า.