ชายถือมีดยืนกลางถนนเข้าพบตำรวจนากลางแสดงความบริสุทธิ์ใจแจงโดนขับรถปาดหน้า  

    

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในโลกโซเชียล ได้ปรากฏมีคลิปชายลงจากรถกระบะสีดำ เดินลงไปกลางถนนถือมีดยกขึ้น เดินลงไปหาคนขับรถอ้อย และมีเสียงตะโกนให้ลงมา แต่คนขับรถอ้อยไม่ได้ลงมา และขับรถพ่วงบรรทุกอ้อยได้ขับรถแซงขึ้นไป โดยมีพลเมืองดีจอดรถอยู่ข้างถนนได้ถ่ายคลิปไว้ ซึ่งคลิปดังกล่าวมีความยาวประมาณ 30 วินาที

 หลังจากนั้นชายคนดังกล่าว ได้ถือมีดและขับรถกระบะสีดำ ย้อนกลับเข้าไปในตัวอำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู โดยจุดเกิดเหตุอยู่ที่บริเวณสามแยกจะไปตำบลฝั่งแดง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู หน้าโรงเรียนแห่งนึ่ง

  ต่อมา พ.ต.อ.สันติ บุญชู ผกก.สภ.นากลาง ทราบเรื่องจึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ประเสริฐ รัตนรุ่งโรจน์ รอง ผกก.สส.สภ.นากลาง ,พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ จันทร์ไทยธชา สว.สส.สภ.นากลาง พร้อมชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบ  

 

 ต่อมาได้มี นายเอ ( นามสมมุติ ) อายุ 41 ปี อยู่ที่อำเภอนาวัง จังหวัดหนองบัวลำภู ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นากลาง ได้กล่าวว่าเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 15.30 น. ตนเองได้ขับรถกระบะมาจากอำเภอนาวัง มาตามถนนสาย 210 เมื่อถึงช่วงบริเวณหน้าสำนักงานไปรษณีย์ อำเภอนากลาง

ได้มีรถบรรทุกอ้อยวิ่งอยู่ด้านหน้าค่อมเลนอยู่ตนเอง จึงเข้าใจว่ารถบรรทุกจะขับชิดเลนด้านขวา ตนเองเลยตีไฟส่งสัญญาณ เพื่อจะแซงด้านซ้ายขึ้นไป พอตนเองขับเบี่ยงเข้าเลนซ้าย รถบรรทุกคันดังกล่าว ได้ขับปาดหน้าจนทำให้รถของตนเอง เกือบจะเสียหลักลงข้างทาง

 และรถคันดังกล่าวได้บีบแตรลักษณะก่อกวน ทำให้ตนเองเกิดความไม่พอใจ จนกระทั่งไปถึงสามแยก รถตนเองและคู่กรณีได้จอดติดไฟแดง ตนเองจึงได้ถือมีด มีความยาวประมาณ 74 ซม. เพื่อจะเข้าไปสอบถามคนขับรถอ้อยคันดังกล่าว จึงตะโกนถามไปว่าขับรถค่อมเลนทำไม แต่ไม่ได้คำตอบจากผู้ขับขี่รถอ้อย

ตนจึงได้เดินกลับมาที่รถ และได้ขับรถย้อนกลับไปหาเพื่อน โดยตนเองไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด จึงได้เดินทางเข้าให้ปากคำ รับสารภาพด้วยความสมัครใจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดแต่ไม่พบ หลังจากนั้นพนักงานสอบสวน สภ.นากลาง ได้ทำบันทึกไว้ และจะติดตามตัวคนขับรถอ้อยมาสอบถามเหตุการณ์ และนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

#ภาพ/ข่าวและเนื้อหานี้ เพื่อกิจการสื่อมวลชน เป็นการใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่องานประชาสัมพันธ์ ไม่แสวงหาผลกำไรในทางการค้า.