สุดทนแม่แจ้งจับลูกชายคลั่งขอเงินไปซื้อยาบ้าไม่ได้ทำร้ายร่างกายคว้ามีดจะปาดคอ
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดหนองบัวลำภู รับแจ้งจากหญิงอายุ 51 ปี อยู่ที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ว่าถูกลูกชายทำร้ายร่างกาย คว้ามีดจะมาปาดคอตนเอง ขอเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ ตนเองไปรับจ้างทำงานก่อสร้างมา มีเงิน 500 บาทเลยให้บุตรชายไป อยากให้เจ้าหน้าที่มาจับกุมตัวไปดำเนินคดีให้ด้วย
จากนั้นชุดปฎิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดหนองบัวลำภู นำโดย นายประสิทธิ์ มหาวงศ์ ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดหนองบัวลำภู ,นายธวัชชัย วงษ์แสน ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอศรีบุญเรือง พร้อมด้วย สมาชิก อส. เดินทางไปพบนางหนูเมด ถิ่นอำนาจ ที่บ้านหนองโน ต.หนองบัวใต้ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู แจ้งว่า นายปราเมศ ฯอายุ 31 ปี ซึ่งเป็นลูกชาย เคยติดคุกอยู่ที่เรือนจำหนองบัวลำภู อยู่เกือบ 5 ปี ในคดียาเสพติด หลังจากที่ออกจากคุกมา ก็มีพฤติกรรมเสพยาบ้า และหากวันใดขอเงินแม่ไปซื้อยาบ้าไม่ได้ จะทำร้ายแม่ และทำลายทรัพย์สินภายในบ้าน และเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 นายปราเมศฯ ได้เอามีดจะปาดคอแม่ แต่แม่หนีได้ทัน เหตุเกิดจากขอเงินไปซื้อยาบ้าไม่ได้ ซึ่งทางแม่หรือนางหนูเมดฯ เคยไปแจ้งความเพื่อขอดำเนินคดีที่ สภ.ศรีบุญเรือง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ได้มาจับตัวไป ดำเนินคดีในข้อหาเสพยาบ้า ไม่กี่วันก็ปล่อยตัวออกมา และวันนี้ นายปราเมศฯ ก็ขอเงินตนไป จำนวน 500 บาท เพื่อไปซื้อยาบ้ามาเสพ หากตนไม่ให้ก็จะถูกทำร้าย ตนจึงให้เงินไป และแจ้งฝ่ายปกครองเข้าช่วยเหลือ
หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองรับเรื่องจึงวางแผนเข้าจับกุม โดยกระจายกำลังอยู่รอบๆบ้าน ต่อมานายปราเมศฯ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่พยายามเข้าควบคุมตัว เนื่องจากเป็นบุคคลอันตราย แต่นายปราเมศฯ พยายามขัดขืน หลังจากควบคุมตัวได้แล้ว นายปราเมศฯ ให้การยอมรับว่าตนพึ่งเสพยาบ้าจริง จำนวน 4 เม็ด และเหลืออีก 3 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋า ผลการตรวจค้น จุดที่ 1 พบยาบ้าจำนวน 3 เม็ด อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านขวาของนายปราเมศฯ ฯ จุดที่ 2 พบยาบ้า จำนวน 10 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณใต้เบาะนอน ในห้องนอน แต่นายปราเมศฯ ให้การปฏิเสธ ว่ายาบ้าที่พบใต้เบาะนอนในห้องนอน ไม่ใช่ของตนเอง เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้นำตัวมาทำบันทึกจับกุมที่ ที่ว่าการอำเภอศรีบุญเรือง และแจ้งข้อกล่าวหานายปราเมศฯว่า เสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ,มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ครอบครองโดยผิดกฎหมาย ,ขับขี่รถจักรยานยนต์ขณะมีสารเสพติด เมทแอมเฟตา(ยาบ้า) อยู่ในร่างกายโดยผิดกฎหมาย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีบุญเรือง ดำเนินคดีตามกฏหมาย
โดยนางหนูเมด ถิ่นอำนาจ ผู้เป็นแม่ได้ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 ตนเองโดนบุตรชายกระชากผม และลากเข้าไปในห้องจะใช้มีดปาดคอ แต่ตัวเองดิ้นหลุดมาได้ พอตำรวจจับมาที่โรงพัก ตัวเองจึงบอกว่า ทำไมไม่แจ้งข้อหาทำร้ายบุพการี หรือพยายามฆ่า ให้ตนเองด้วย เพราะว่าติดคุกคดีเสพ เดี๋ยวก็ออกมาฆ่าแม่อีก โดยเจ้าหน้าที่ก็ได้ แจ้งว่าตนเองยังไม่ได้เป็นอะไร ตนเองจึงถามไปว่า จะให้ตนเองคอขาดก่อนเหรอ ถึงจะจับได้ โดนลูกชายทำร้ายขนาดนี้ ซึ่งตนเองเป็นแม่แท้ๆ และเป็นผู้แจ้งทำไมไม่ช่วยหน่อย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งมาว่า กฎหมายมันให้แค่นี้ และตนเองก็ยังไม่บาดเจ็บ
ทีนี้แม่เองก็อยากจะถามสังคม และกฎหมายเมืองไทยอยู่หรอกว่า เป็นแม่คนหนึ่งของลูก ที่เป็นแบบนี้ ทำไมไม่ช่วยแม่หน่อยเพราะแม่ทำดีที่สุดแล้ว ในเมื่อลูกเป็นแบบนี้ ก็อยากให้ออกกฏหมายมา เอาตัวไปแล้วไม่ต้องปล่อยกลับมา ให้มาฆ่าหรือทำร้ายคนดีๆ คนทำมาหากิน อยากให้ช่วยตรงนี้ด้วย เพราะที่ผ่านมาทุกวัน ก็มีแต่ข่าวแบบนี้คลุ้มคลั่ง ฆ่าพ่อฆ่าแม่ฆ่าญาติพี่น้อง โดยแค่เหตุผลคำว่าคลุ้มคลั่ง ยังไงอยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ ในบ้านในเมืองช่วยตรงนี้ด้วย ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป.
ภาพ/ข่าวและเนื้อหานี้ เพื่อกิจการสื่อมวลชน เป็นการใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่องานประชาสัมพันธ์ ไม่แสวงหาผลกำไรในทางการค้า. “ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”