ตำรวจเร่งไล่ล่าลูกชายใช้มีดฟันหัวพ่อแท้ๆเสียชีวิต  

   

เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รับแจ้งมีเหตุพ่อเมาเหล้าถือปืน ยิงปืนขึ้นฟ้า ลูกชายเห็นนึกว่า พ่อจะไปยิงปู่ เลยเข้าไปห้ามเพื่อจะแย่งปืน จึงเกิดการต่อสู้กันกับลูกชาย ลูกชายจึงได้ใช้มีดฟันพ่อตัวเองที่ศรีษะ และพ่อเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนปู่ปลอดภัย

      ที่บ้านนิคมศรีวิไล หมู่9 ต.ปางกู่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ก่อนเกิดเหตุ นายสงกรานต์ ฯ อายุ  44 ปี ผู้เสียชีวิต ดื่มสุราแล้วมีปากเสียงทะเลาะกับ นายวิทวัฒน์ฯอายุ 23 ปี ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นบุตรชาย ซึ่งกำลังทำอาหารด้วยมีดพร้า (ของกลางที่ใช้ก่อเหตุ) จากนั้นนายสงกรานต์ฯ ได้หยิบปืนยาวไทยประดิษฐ์ยิงขึ้นบนฟ้า 1 นัด ได้มีนายชิงชัย ฯ อายุ 81 ปี ซึ่งเป็นปู่ของผู้ต้องหา เข้ามาห้ามปราม แต่นายสงกรานต์ฯ ผู้ตาย ได้ผลักนายชิงชัยฯ จนล้มลงได้รับบาดเจ็บ ท้ายปืนยาวกระแทกที่โหนกแก้มด้านขวา 

     ทันใดนั้น นายวิทวัฒน์ ฯ เห็นปู่ถูกทำร้าย จึงใช้มีดพร้าฟันไปที่นายสงกรานต์ฯ ผู้เป็นพ่อที่ศีรษะ และลำตัวหลายครั้ง จนล้มลง โดยมีน้องชายผู้ต้องหา มาช่วยห้าม นายวิทวัฒน์ ฯจึงหยุด แต่นายวิทวัฒน์ ฯ ก็ยังหยิบท่อนไม้ไผ่ ในที่เกิดเหตุ มาตีใส่นายสงกรานต์ฯ ผู้ตายที่ล้มอยู่ และโยนท่อนไม้ และมีดพร้าทิ้งไว้ในป่ารกร้างข้างบ้านที่เกิดเหตุ จากนั้นก็ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ต่อมานายสงกรานต์ฯผู้เป็นพ่อ จึงถูกนำส่ง โรงพยาบาลโนนสัง  และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

       โดย พ.ต.อ.ภิภัธ พิมพ์กลม ผกก.สภ.โนนสัง ,พ.ต.ท.ไสว วันทองดี สว.สส.สภ.โนนสัง พร้อมชุดสืบสวน ได้ประชุมและแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ออกติดตามไล่ล่าคนร้าย จากการสืบสวนทราบว่า คนร้ายได้ขับขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสัง จัดกำลังออกติดตามจับกุมนายวิทวัสฯ ผู้ต้องหา ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่เนื่องจากผู้ต้องหา ใช้จักรยานยนต์เป็นยานพาหนะในการหลบหนี โดยมุ่งหน้าขึ้นไปบนเขาช่องชาด เทือกเขาภูเก้า ภูพานคำ ซึ่งเป็นรอยต่อ จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดขอนแก่น  ซึ่งผู้ต้องหามีความคุ้นชินในพื้นที่ ทำให้เกิดอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ แต่ก็ไม่ลดละ จะได้สืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้  ซึ่งได้ขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดหนองบัวลำภูเรียบร้อย หากผู้ต้องหา หรือญาติผู้ต้องหาสามารถติดต่อให้มามอบตัวได้ ก็จะเกิดประโยชน์ในการต่อสู้คดี จากหนักก็จะเป็นเบา

       ซึ่งนายชิงชัย ฯ อายุ 81 ปี ปู่ของผู้ต้องหา ได้กล่าวว่า ก็อยากบอกให้นายวิทวัฒน์ฯ หลานซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ อย่าหนีและเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ผ่านมาหลานชายตนเองเป็นคนขยันขันแข็ง ทำมาหากินแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คงคิดว่าพ่อจะเข้ามาทำร้ายปู่ จึงได้เข้าไปขัดขวางทำให้เกิดเหตุดังกล่าว  หลานเป็นคนหาเลี้ยงปู่เลี้ยงย่า และเลี้ยงพ่อกับน้องอีก 2 คน ยังไงจึงอยากให้เข้ามอบตัว เพราะหนีไปก็เสียเวลาเฉยๆ ให้เข้ามามอบตัวรับสารภาพผิด นายชิงชัยฯ สงสารหลานมากๆได้กล่าวทิ้งท้ายทั้งน้ำตา ข่าวคืบหน้า ผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป.

ภาพ/ข่าวและเนื้อหานี้ เพื่อกิจการสื่อมวลชน เป็นการใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่องานประชาสัมพันธ์ ไม่แสวงหาผลกำไรในทางการค้า.  “ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”