สุดโหดเร่งไล่ล่าสามียิงภรรยาเสียชีวิตคาที่คาดปมปัญหาเรื่องเงิน
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รับแจ้งเหตุมีหญิงถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านโพธิ์ค้ำ ตำบลกุดแห่ อำเภอนากลางจังหวัดหนองบัวลำภู พ.ต.ท.สุวิจักรขณ์ จันทร์ไทยธชา สารวัตรสืบสวน สภ.นากลาง พร้อมชุดสืบสวน สภ.นากลาง ,ร.ต.อ.จำลอง ยะหัวดง พนักงานสอบสวน ,หน่วยกู้ภัยร่วมใจนากลาง และแพทย์เวรโรงพยาบาลนากลาง ได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบนางสาวลัดดาวัลย์ ฯ อายุ 36 ปี ถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ 1 นัดเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยผู้ก่อเหตุคือนายสุริยา ฯ อายุ 36 ปี เป็นสามีของผู้ตาย หลังจากก่อเหตุแล้ว ได้ขับรถนำลูกอายุ ประมาณ 1 ปีเศษ ไปฝากไว้กับมารดาของตนเอง และได้ขับขี่รถมอเตอร์ไซด์หลบหนีไป
สอบถามนางนิชดา อายุ 53 ปี มารดาของนางสาวลัดดาวัลย์ ฯ อายุ 36 ปี ผู้ตาย ได้กล่าวว่าทั้งคู่อยู่กินกันจนมีบุตร 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน ที่ผ่านมาลูกสาวก็แยกไปอยู่กับสามี หมู่บ้านใกล้ๆกัน ไม่ค่อยได้พูดคุยกันมากนัก แต่ระยะหลังได้ข่าวว่าทั้งคู่มีปากเสียง และทะเลาะกันบ่อย บางครั้งลูกสาวมาอาบน้ำที่บ้าน ก็เห็นรอยช้ำตามแขน และตามบริเวณแผ่นหลัง นางสาวลัดดาวัลย์ ฯ อายุ 36 ปี บุตรสาว รักนายสุริยาฯสามีมาก ตอนติดคุกก็ไม่มีใคร รอจนสามีพ้นโทษ ก็กลับมาอยู่กินด้วยกันเหมือนเดิม พร้อมอโหสิกรรมให้ลูกเขย เพราะว่าที่ผ่านมาทั้ง 2 คน คงเป็นคู่กัน แต่อยากให้เข้ามอบตัว ไม่อยากให้หลบหนีไปไหน ให้ห่วงลูกทั้ง 3 คน
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สันติ บุญชู ผกก.สภ.นากลาง ได้เร่งประชุมชุดสืบสวนโดยได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ออกติดตามไล่ล่าคนร้าย เช็คกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง ที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี ปมปัญหาน่าจะเกิดจากเรื่องเงิน และความเป็นอยู่ในครอบครัว โดยนายสุริยาฯ เคยติดคุกในคดียาเสพติดมาแล้วกว่า 5 ปี คงจะมีเพื่อนหรือเครือข่ายบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ต่อมาปรากฏภาพนายสุริยา ฯ ผู้ก่อเหตุ ได้ขับรถมอเตอร์ไซค์วิบากยกสูง สวมเสื้อแขนยาวสีทึบๆ กางเกงขายาวสีดำ ใส่หมวกกันน็อค ปิดบังใบหน้า ขับรถผ่านไปทางบ้านป่าแดงงาม ซึ่งเป็นเส้นทางลัดที่จะออกไป จังหวัดเลย ,จังหวัดหนองคาย และอุดรธานีได้ ซึ่งภาพกล้องวงจรปิดได้จับภาพไว้ชัดเจน
คนร้ายคงเตรียมการหนีมาเป็นอย่างดี คุ้นชินในพื้นที่ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้มารดาของนายสุริยาฯ โทรหาบุตรชายแต่โทรศัพท์ได้ปิดเครื่อง จึงได้ฝากข้อความไว้ให้เข้ามอบตัว และถ้าผู้ใดพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือโทร 191 และอยากให้นายสุริยา ฯ เข้ามอบตัวสู้คดี เพราะถือว่านายสุริยา ฯ ผู้ก่อเหตุ มีอาวุธร้ายแรงติดตัว เป็นบุคคลอันตราย น่าจะไปก่อเหตุกับผู้อื่นได้อีก ถ้าเกิดเข้าจับกุมหรือต่อสู้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการตามยุทธวิธีของตำรวจ ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป.
ภาพ/ข่าวและเนื้อหานี้ เพื่อกิจการสื่อมวลชน เป็นการใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่องานประชาสัมพันธ์ ไม่แสวงหาผลกำไรในทางการค้า. “ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”