ปลอมตัวเป็นนักเสพเข้าล่อซื้อยารวบนักค้าเป็นหญิง 1 ราย ตรวจยึดยาบ้าเกือบ 10,000 เม็ด  

    

เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเพทาย จรกระโทก นายอำเภอศรีบุญเรือง ได้มอบหมายให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอศรีบุญเรือง นำโดย นายธวัชชัย วงษ์แสน ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอศรีบุญเรือง ,สมาชิกอาสารักษาดินแดน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ศรีบุญเรือง ร่วมกันจับกุม

นางสาวฤทัยรัตน์ฯ อายุ 27 ปี ต.หนองแก อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 8,435 เม็ด ผลตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง สามารถจับกุมได้ที่ กระท่อมนาทางทิศเหนือในพื้นที่ ต.หนองแก อ.ศรีบุญเรืองจ.หนองบัวลำภู

 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ได้จับกุมนายเอ ฯและนางสาวบี ฯ พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 34 เม็ด โดยทั้ง 2 คน บอกว่าซื้อยาบ้ามาจากนางสาวฤทัยรัตน์ ฯ อยู่ที่ ต.หนองแก อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู โดยซื้อมาครั้งละ 1 ถุง (200 เม็ด) ในราคาถุงละ 4,000 บาท  เจ้าหน้าที่จึงให้ทั้ง 2 ล่อซื้อยาบ้าให้ โดยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ปลอมตัวเป็นแฟนกับนางสาวบีฯ ขับจักรยานยนต์เข้าไปที่กระท่อมนาของนางสาวฤทัยรัตน์ฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถยนต์ติดตามไปที่กระท่อมนาเป้าหมาย เมื่อนางสาวฤทัยรัตน์ฯ เห็นเจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งหนี ไปทางสระน้ำด้านหลังกระท่อมนา แต่เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมไว้ได้ และให้การยอมรับว่าเสพยาบ้ามา 2 เม็ด

   ตรวจค้น จุดที่ 1.พบยาบ้าจำนวน 2 ถุง ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าผ้าสะพายข้างที่นางสาวฤทัยรัตน์ฯ สะพายไว้อยู่ที่ตัว จุดที่ 2. ยาบ้า จำนวน 1 แพ็ค ซุกซ่อนอยู่ในกองอิฐด้านหลังห้องน้ำ รวมยาบ้าทั้งหมด จำนวน 8,435 เม็ด โดยนางสาวฤทัยรัตน์ฯ รับสารภาพว่าได้ซื้อยาบ้ามาจากคนลาว โดยการโอนเงินไปให้คนลาวก่อน เมื่อโอนเงินแล้วคนลาวก็จะให้นักบินนำยาบ้ามาวางตามข้างถนนในพื้นที่อำเภอศรีบุญเรือง และตนก็จะออกไปเอา แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ

     จากนั้นได้แจ้งข้อกล่าวหานางสาวฤทัยรัตน์ฯ ว่ามียาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (เมทแอมเฟตามิน หรือยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ,เสพยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (เมทแอมเฟตามิน) โดยผิดกฎหมาย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีบุญเรือง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ภาพ/ข่าวและเนื้อหานี้ เพื่อกิจการสื่อมวลชน เป็นการใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่องานประชาสัมพันธ์ ไม่แสวงหาผลกำไรในทางการค้า.“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”