กระบะซิ่งชนเฒ่าวัย 64 ปีดับกระเด็นไปไกลกว่า 40 เมตรขับต่อไม่ได้จอดรถทิ้งไว้คนขับหายไปในความมืด   

เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุเมืองหนองบัวลำภู ว่ามีเหตุรถชนทำให้มีผู้เสียชีวิตที่บ้านใหม่โพธิ์ทองหมู่ 12 ตำบลป่าไม้งาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู จากนั้น พ.ต.ต.วิวิธชัย ไชยแพทย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลหนองบัวลำภู, หน่วยกู้ภัยคุณธรรมหนองบัวลำภู ได้รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบชายเสียชีวิตทราบชื่อภายหลังว่าคือนายทองอินทร์ เหลื่อมทอง อายุ 64 ปี ที่อยู่ 409/4 47 หมู่ที่ 11ตำบลหาดคำ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย สวมกางเกงขาสั้นสีดำ เสื้อยืดแขนสั้นสีขาว นอนเสียชีวิตเลือดท่วมตัว สภาพศพกระดูกซี่โครงหักและบริเวณศีรษะเป็นแผลขนาดใหญ่ตามเนื้อตัวมีบาดแผลถลอกหลายแห่ง อยู่ภายในศาลากลางหมู่บ้าน ใกล้กันพบรถมอเตอร์ไซค์ yamaha รุ่นเก่า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพังยับทั้งคัน  จุดที่ชนอยู่บนบริเวณถนนสายหนองบัวลำภูไปบ้านสร้างเสี่ยน พลเมืองได้เล่าให้ฟังว่าก่อนเกิดเหตุเห็นรถกระบะได้ขับขี่มาอย่างเร็วสูง และชนผู้ตายซึ่งขับขี่มอเตอร์ไซค์อยู่ในเลนเดียวกันกระเด็นไปไกลกว่า 40 เมตร  ร่างพร้อมกับรถมอเตอร์ไซด์กระเด็นเข้าไปในศาลากลางหมู่บ้านบ้านใหม่โพธิ์ทอง

 

       และห่างกันออกไปประมาณ 500 เมตรได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีรถกระบะจอดอยู่ที่บริเวณข้างทางเปิดไฟกระพริบขอทางไว้  เป็นรถมาสด้ากระบะแคป สีเทา หมายเลขทะเบียน ผต 6878 อุดรธานี  มีรอยยุบที่บริเวณด้านหน้าฝั่งซ้ายของรถ เหล็กกันชนรถได้หลุดออกมาแทงที่ยางทำให้รถไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้  ตรวจสอบบริเวณดังกล่าวไม่พบคนขับคาดว่าน่าจะเป็นรถคันที่ก่อเหตุชนแล้วหนีมา  สอบถามนางกนกวรรณ รุ่งแสง บุตรสาวของผู้ตายได้เล่าให้ฟังว่าขณะเกิดเหตุพ่อได้ขับรถจะกลับไปรับแม่เพื่อจะไปนอนที่บ้านทุ่งนา แต่ไปไม่ถึงมาเจออุบัติเหตุเสียชีวิตเสียก่อน

       ในเบื้องต้นพ.ต.ต.วิวิธชัย ไชยแพทย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู ได้กล่าวว่ารถยนต์คันที่ก่อเหตุคงขับมาด้วยความเร็วสูงและชนผู้ตายกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตร ขับไปจอดรถทิ้งไว้แล้วหลบหนีไป  ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถยนต์ว่าผู้ใดเป็นผู้ครอบครอง และผู้ใดเป็นคนขับจะได้เรียกมารับทราบข้อกล่าวหา เพราะข้อหาชนแล้วหนีทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายนั้นโทษหนักมากถึงขั้นมีโทษจำคุก ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวรายงานให้ทราบต่อไป