นายกสมาคมไร่อ้อยฯเดือดถามกู้ภัยให้ภาพข่าวกับนักข่าวออกข่าวเกินจริงด้านกู้ภัยแจงส่งภาพให้แต่ไม่รู้ว่านักข่าวเขียนแบบไหน
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณรงค์ เกษทองมา นายกสมาคมชาวไร่อ้อยจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมสมาชิกชาวไร่อ้อย ฯ ได้เดินทางไปสอบถามกู้ภัยหลังจากเห็นข่าวที่ออกสื่อออนไลน์ และเพจเฟสบุ๊คได้นำเสนอข่าวว่ามีเหตุรถพ่วงบรรทุกอ้อย ขับเข้าไปชนสังกะสีของร้านในตลาดเพราะหลงทาง
แต่มีข่าวออกไปลักษณะเขียนใส่ร้ายบิดเบือนทำให้ชาวไร่อ้อยในจังหวัดหนองบัวลำภู ได้รับผลกระทบเสียหาย ทำให้ถูกเกลียดชัง และเข้าใจผิดซึ่งรับทราบข้อมูลเพียงฝ่ายเดียว และในเนื้อหาข่าวช่วงนึ่งได้กล่าวว่า “เป็นที่น่าสังเกตว่าช่วงนี้เป็นฤดูเปิดโรงงานน้ำตาลหลายพื้นที่ ทำให้มีรถบรรทุกทั้งบรรทุกอ้อยพ่วง และรถบรรทุกพ่วงเปล่า วิ่งกันในพื้นที่สร้างความหวาดผวา ให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นประจำทุกวัน ทั้งรถเสียในระหว่างทาง อ้อยตกเรี่ยราดตามถนน รถวิ่งคู่ขนานกัน จนรถที่สัญจรไปมาบนท้องถนนวิ่งลำบาก และเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำบ่อย ตลอดจนทำลายทรัพย์ของชาวบ้านและสายไฟ อันเนื่องมาจากบรรทุกเกินที่กำหนด และรถบรรทุกพ่วง ดัดแปลงมีสภาพเก่าปีหนึ่งๆมาวิ่งครั้งหนึ่ง ในสภาพที่คนขับและตัวรถไม่สมบูรณ์ สร้างปัญหาให้กับประชาชน ชุมชน และเจ้าหน้าที่รายชั่วโมง ในขณะ ที่ขาดการบังคับใช้กฎหมาย และเอาจริงจังของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มีประชาชนต้องได้รับอันตรายบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากรถบรรทุกพ่วงอ้อยที่จอดเสียระหว่างทาง ไม่มีอุปกรณ์เตือนภัยระหว่างรถจอดข้างทาง”
นายณรงค์ เกษทองมา นายกสมาคมชาวไร่อ้อยจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวต่อไปว่า ซึ่งตนเองดูแล้วมีการเขียนเกินจริงไปมาก โดยโรงงานน้ำตาล มีทั้งหมด ขอนแก่น,อุดรธานี,เลย,หนองบัวลำภู 4จังหวัด ไม่ได้มีแค่ จ.หนองบัวลำภู ซึ่งที่ผ่านมาเรามีรถเก็บกู้หลังจากที่รับแจ้งว่า มีรถอ้อยของพี่น้องสมาคมชาวไร่อ้อยจังหวัดหนองบัวลำภู เกิดอุบัติเหตุหรือทำอ้อยหล่น เราก็จะออกไปเก็บกู้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนผู้สัญจรไปมา ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และภาพบางภาพไม่ทราบว่าเอามาจากไหนมาลง ให้ดูว่ารถอ้อยที่เกิดเหตุใน อ.ศรีบุญเรือง สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งทางสมาคมชาวไร้อ้อยจังหวัดหนองบัวลำภูตนเองได้สั่งกำชับอยู่แล้วว่า ให้ปฏิบัติตามกฏหมายกำหนด ซึ่งภาพข่าวดังกล่าวได้เผยแพร่ในโลกโซเชียล ได้เกิดความเสียหายไปแล้ว ในเบื้องต้นได้ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย และเก็บหลักฐานทั้งหมด จะได้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน ที่ทำให้พี่น้องเกษตรกรที่ปลูกอ้อยในจังหวัดหนองบัวลำภูเกิดความเสียหายต่อไป
ในวันเดียวกันผู้สื่อข่าวได้บันทึกคลิปวีดีโอมี นายณรงค์ เกษทองมา นายกสมาคมชาวไร่อ้อยจังหวัดหนองบัวลำภู และนายเอ ( นามสมมุติ) ตัวแทนของกู้ภัยได้ออกมาชี้แจ้งว่า ตนเองได้ทำไลน์กลุ่มขึ้นมาเป็นกลุ่มของกู้ภัย จะรายงานเหตุการณ์อุบัติเหตุต่างๆในอำเภอศรีบุญเรือง โดยมีผู้สื่อข่าวอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย โดยภาพข่าวตัวเองเป็นคนโพสต์ส่งให้นักข่าวคนดังกล่าวจริง ซึ่งทางนายกสมาคมชาวไร่อ้อยฯ ได้นำภาพนักข่าวมาให้ดู และตนยืนยันว่าเป็นนักข่าวคนเดียวกัน ที่อยู่ในกลุ่มไลน์ของกู้ภัย ที่ผ่านมานักข่าวคนนี้ได้อยู่ในกลุ่มมากว่า 2 ปีแล้ว โดยจะมีการเขียนข่าวทั่วไป แล้วจะให้เครดิตกับกู้ภัยของตนเองมาตลอด แต่ถ้าเกิดความเสียหายก็ให้ไปแก้กันเอาเอง ไปถามนักข่าวคนนั้นเอง ครั้งนี้ไม่ทราบว่าเขาไปเขียนแบบไหน และพึ่งเห็นและรับทราบตอนที่นายกสมาคมชาวไร่อ้อยจังหวัดหนองบัวลำภู นำเอกสารข่าวมามอบให้นี้เอง ส่วนเรื่องอ้อยหล่นมันเป็นประเด็นที่เกิดมานานแล้ว เกิดจากลานอ้อยที่รีบส่งผลผลิตไม่ได้แพ็คอ้อย หรือมัดอ้อยให้ดี ทำให้อ้อยหล่นลงมาชาวบ้านก็โทรมาแจ้งที่กู้ภัย แต่ทางรถอ้อยก็วิ่งผ่านไปไม่เก็บมีตนเองเก็บไปขายเพื่อให้เด็กน้อยกิน ซึ่งที่ผ่านมาทางกู้ภัยก็ไม่เคยพูดว่าชาวไร่อ้อยไม่ดี
ส่วนข่าวที่นักข่าวเขียนมาแบบนี้ ก็ต้องไปถามนักข่าวเขาเอง เพราะบรรณาธิการข่าวของเขา ซึ่งเขามีส่วนที่กลั่นกรองอยู่แล้ว เขาคงคุยกันแล้ว ข่าวถึงได้ออกไปแบบนั้น และที่ผ่านมาตนเองและทางกู้ภัยไม่เคยให้สัมภาษณ์ ถ้ามีคลิปสัมภาษณ์ก็ให้เอามาเพราะตนเองมี Facebook ส่วนตัวอยู่แล้ว ถ้าจะโพสต์ก็คงโพสต์ลง Facebook ส่วนตัว หรือเพจบุ๊คของกู้ภัย เพราะไม่ใช่เฉพาะกู้ภัยที่รับข้อมูลอย่างเดียว เพราะว่าปากคน ยาวยิ่งกว่าปากกา ไปพูดกันเองทั้งที่กู้ภัยไม่ได้พูด ซึ่งตนเองได้ทำเพจกู้ภัย ส่วนชาวบ้านจะมาคอมเม้นต์ ตนเองก็ไม่สามารถที่จะบังคับได้ เพราะว่าชาวบ้านก็ไม่ชอบอยู่แล้ว ส่วนความเดือดร้อนที่สร้างความเสียหาย ก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ปล่อยให้อยู่ในขบวนการต่อไป และในการถ่ายคลิปเผยแพร่ทางกู้ภัย เห็นยังไงก็ถ่ายและโพสต์ลงไปอย่างนั้น เพราะลักษณะคนขับนั้นลักษณะคล้ายจะเหมือนคนเมา ส่วนจะเป่าแอลกอฮอล์คนขับ เจอไม่เจอ ไม่รู้
ทางด้านนายเพทาย จรกระโทก นายอำเภอศรีบุญเรือง ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า
หลังเกิดเหตุได้รับรายงานแล้วพบว่าคนขับรถเป็นคนจังหวัดศรีสะเกษ คงไม่ชินทาง ขับรถไปส่งอ้อยที่โรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอนากลาง
จากนั้นจึงขับรถกลับมา แต่คงจะหลงทาง ขับรถเลยไปเฉี่ยวชนป้ายสังกะสีของร้านค้า แต่ทางคนขับรถเถ้าแก่รถได้ซ่อมสังกะสีให้เรียบร้อยแล้ว
โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และที่ผ่านมาตัวเองได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ตามจุดตรวจต่างๆให้กวดขันวินัยจราจร
แต่ก็ไม่พบอะไรที่ผิดกฎหมาย และอ้อยเป็นสินค้าทางการเกษตรซึ่งพี่น้องประชาชน ได้ทำมาหากินหล่อเลี้ยงครอบครัว
โดยจะมีการขนส่งพืชผลทางการเกษตรไปจำหน่ายแค่ปีละ 1 ครั้ง โดยใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
ไปสิ้นสุดประมาณปลายเดือนมีนาคม 2568 ยังไงก็ให้เห็นใจพี่น้องชาวไร่อ้อยด้วย เป็นพืชผลทางการเกษตร
ที่สร้างรายได้ให้พี่น้องประชาชน และจังหวัดหนองบัวลำภู และที่ผ่านมาในส่วนของอำเภอศรีบุญเรือง
ก็ไม่มีอุบัติเหตุที่เกิดจากรถบรรทุกอ้อย และมีผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด
และ พ.ต.อ.สุมิตร นันสถิตย์
ผกก.สภ.ศรีบุญเรือง ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า
หลังจากเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้รายงานแล้วว่า เป็นรถบรรทุกเปล่า ได้ไปส่งผลผลิตทางการเกษตร
และกลับจากโรงงาน มีนายรุ่งชัย วรเชษฐ์ คนขับ เป็นคนจังหวัดศรีสะเกษไม่คุ้นชินพื้นที่
ได้หลงทางเข้าไปในตลาดสด และได้เฉี่ยวชนหลังคาร้านค้าเสียหาย ทางเจ้าของรถและผู้ขับขี่
ได้รับผิดชอบ ชดใช้ค่าเสียหายเรียบร้อยแล้ว หลังจากตรวจวัดแอลกอฮอล์ ก็ไม่เกินกว่ากฎหมายกำหนด
ได้เปรียบเทียบปรับ ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และได้ปล่อยตัวไป
ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการตามขั้นตอนเรียบร้อย และในช่วงฤดูกาลการเปิดหีบปี
2567 / 2568 ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการกวดขัน จัดระเบียบรถบรรทุกอ้อยให้เป็นไปตามกฎหมาย และที่ผ่านมาไม่ปรากฏว่ามีการเสียชีวิต
จากเหตุรถบรรทุกอ้อยแต่อย่างใด ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการเข้มงวดกวดขันวินัยจราจรกันอยู่แล้ว
ทางด้านนายรุ่งชัย วรเชษฐ์ อายุ 62 ปี อยู่ที่ ตำบลศรีแก้ว อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ
คนขับรถบรรทุกอ้อยในวันเกิดเหตุได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ในวันเกิดเหตุได้ขับรถไปส่งอ้อยที่โรงงานน้ำตาลเอราวัณ
รถของตนเองไม่ใช้รถของโรงงานน้ำตาลเอราวัณ และต้องขอโทษโรงงานน้ำตาลเอราวัณด้วย
ที่ถูกกล่าวพาดพิงต้องเสียหาย รถอ้อยคันที่ตนเองขับเป็นรถส่วนตัว รับจ้างขนอ้อยตามลานอ้อยต่างๆไปส่งโรงงานน้ำตาลทุกที่
แล้วแต่จะจ้างตนเองไป จังหวัดเลยบ้าง จังหวัดหนองบัวลำภูบ้าง แล้วแต่ผู้ว่าจ้าง
ในวันเกิดเหตุกำลังจะขับรถไปที่อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งต้องผ่านอำเภอศรีบุญเรือง
ขณะนั้นตนเองมีอาการเบลอ เพราะเป็นเวลากลางคืน รถที่ขับมาก็เป็นรถเปล่า และขับหลงทางเข้าไปในตลาด
เพราะว่ามันมืดนานๆ มาครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นจึงสอบถามชาวบ้าน ก็บอกว่าถ้าจะไปอำเภอชุมแพ
จะต้องกลับรถพอไปถึงบริเวณหน้าตลาด จึงขับช้าๆเลี้ยวเข้าไป คิดว่าด้านในเป็นถนนกว้างกลับรถได้
แต่เหล็กด้านหลังของตัวรถพ่วง
ไปเกี่ยวกับสังกะสีของร้านค้า ได้รับความเสียหาย และก่อนขึ้นรถมา ตนเองกินข้าวจึงได้ดื่มเหล้าขาวไป
2 เป็ก เพื่อกินข้าวอร่อย แต่เป็นเป๊กเล็กๆ ระยะเวลาที่ดื่มมาก็ 6-7 ชั่วโมงแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ได้ใช้เครื่องเป่าแอลกอฮอล์ แต่ก็ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
จนไม่สามารถขับขี่ยวดยานได้
และในขณะเกิดเหตุนั้น มีคนมาบันทึกภาพวิดีโอตนเองไม่ทราบว่าเป็นใคร
ตนเองอยู่ในระหว่างตกใจ ต่อมาได้นำไปโพสต์ในสื่อออนไลน์ โดยไม่เบลอหน้าของตนเอง
ใครดูก็สามารถระบุได้ว่าเป็นตนเอง และไปพูดว่าตนเองเมาแล้วขับ ไม่มีการกลั่นกรองเสียก่อน
เป็นการนำเอาข้อมูลอันเป็นเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และมีการไปคอมเม้นต์สนับสนุน
โดยเจ้าของเพจไม่มีการลบคอมเม้นต์ข้อความ ทำให้ตนเองได้รับความเสียหาย นำไปเผยแพร่โดยไม่ขออนุญาตตนเองก่อน
ไม่ใช่การติชมเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และเผยแพร่ไปแล้วจะมาลบตอนหลัง
ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะตัวเองได้เสียหาย ทำให้โดนดูถูก และโดนเกลียดชัง
และมองว่าตนเองเป็นคนไม่ดี ในส่วนของตำรวจตนเองได้เสียค่าปรับ และซ่อมแซมสังกะสีให้เจ้าของร้านค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว.
ภาพ/ข่าวและเนื้อหานี้ เพื่อกิจการสื่อมวลชน
เป็นการใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่องานประชาสัมพันธ์