หนองบัวลำภูพบชายต้องสงสัยติดเชื้อแอนแทรกซ์หลังกินเนื้อวัวดิบมีตุ่มผื่นคันตามร่างกาย
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบชาย อายุ 64 ปี อยู่บ้านซับภูเก้า ต.หนองเรือ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ป่วยอาการมีตุ่มคันที่หลังตามด้วยแขน
ท้อง และไหล่ลักษณะแผลมีขอบแดงตรงกลางเป็นเหมือน มีหนองไหล แต่ภายหลังยุบตัว ตกสะเก็ดเป็นสีดำ จากการตรวจสอบห้องปฏิบัติการ ย้อม แกรม + ผลลัพธ์เป็น Positiveจากการสอบสวนโรคเบื้องต้นของแพทย์ผู้ทำการรักษา พบกิจกรรมเสี่ยงของผู้ป่วยคือวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ได้ทำการซื้อ วัวเพศผู้อายุ 8 เดือน มาทำการชำแหละ แบ่งเนื้อกันไปรับประทาน และผู้ป่วยได้รับมาส่วนหนึ่งจึงไป
ประกอบอาหารพื้นเมืองอีสานคือก้อยดิบ โดยมีผู้ร่วมรับประทานด้วย รวม 5 คน ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 เริ่มมีอาการคันที่หลังและบ่าไหล่ พบมีตุ่ม จึงได้เกา ต่อมาจึงเริ่มมีตุ่มลามที่หน้าท้องและแขนบริเวณข้อศอกด้านซ้าย วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 พบมีตุ่มลุกลามเพิ่มจึงตัดสินใจ เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลโนนสัง ทางโรงพยาบาลโนนสังจึงรายงานส่วนเกี่ยวข้องทราบ
หลังรับรายงาน นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู สั่งการให้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภู ดำเนินการสอบสวนโรคติดตามผล อย่างไรก็ตามจากกันตรวจสอบเบื้องต้น หน่วยงานปศุสัตว์จังหวัดหนองบัวลำภู แจ้งว่าสำหรับเชื้อที่พบจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่าเป็นเชื้อแอนแทรกซ์ จริงหรือไม่ เนื่องจากผลจากการเพาะเชื้อแกรมบวกที่เป็น Positive นั้น เป็นเพียงการพบเชื้อเบื้องต้น ซึ่งเกิดจากเชื้อหลายตัว ไม่ใช่แต่เฉพาะเชื้อแอนแทรกซ์ เท่านั้น อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นเชื้อแอนแทรกซ์ จะต้องดำเนินการควบคุมโรค ตรวจสอบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ตรวจสอบสัตว์ร่วมฝูง ซึ่งมีจำนวนอีก 9 ตัว เจาะเลือดส่งไปตรวจพิสูจน์ที่ กรมปศุสัตว์ศูนย์วิจัย และพัฒนาการสัตว์แพทย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอนแก่น รอผลแลปว่าจะมีเชื้อหรือไม่
ทางด้าน นายกฤษณะ ผลไสว นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดหนองบัวลำภู เปิดเผยว่าวันนี้จะได้ตรวจสอบสัตว์ร่วมฝูง เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ป่วยให้การว่า ชอบรับประทานเนื้อจากสัตว์ อย่างไรก็ตามยังไม่เคยมี การตรวจพบเชื้อแอนแทรกซ์ระบาดในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภูมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ของอำเภอโนนสัง ในช่วงที่มีการตรวจพบว่ามีการระบาดของเชื้อแอนแทรกซ์ ส่วนใหญ่จะในพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับวันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการ เจาะเลือดสัตว์ร่วมฝูงทั้งหมด ออกดำเนินการฉีดพ่น สารเคมีเพื่อป้องกันโรค บริเวณที่พบว่าเป็นจุด ชำแหละสัตว์ตัวที่ต้องสงสัย เพื่อเป็นการป้องกันและสร้างความสบายใจให้กับ ชาวบ้านในพื้นที่ นายกฤษณะ ฯ ยังแจ้งเตือนชาวบ้านด้วยว่าเนื่องจากช่วงนี้อยู่ในช่วงที่เข้าหน้าฝน เป็นช่วงที่สัตว์พาหนะโดยเฉพาะวัวควาย อ่อนแอเนื่องจากสัมผัสอากาศ เปลี่ยนแปลงจึงขอให้เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ให้ความเอาใจใส่ สัตว์เลี้ยงของตน โดยเฉพาะวัวควาย หากมีอาการผิดปกติเช่น ไม่กินหญ้า กล้ามเนื้อสั่น หรืออาการอื่นใดที่แสดงว่าไม่ปกติ ให้รีบรายงานปศุสัตว์อาสาในพื้นที่โดยเร่งด่วน เพื่อทางเจ้าหน้าที่จะได้เข้ามาตรวจสอบ และดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที.
ภาพ/ข่าวและเนื้อหานี้ เพื่อกิจการสื่อมวลชน
เป็นการใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่องานประชาสัมพันธ์