ข่าวคืบหน้าผู้ปกครองร้องครูทําร้ายนักเรียนพาเด็กมาปล่อยทิ้งไว้ที่ถนนจบลงด้วยดีปรับความเข้าใจกันทุกฝ่าย   

 เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องได้รับแจ้งจากผู้ปกครองนักเรียนในตำบลด่านช้าง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู ว่าครูประจำชั้นของนักเรียนชั้นประถมปีที่ 2 โรงเรียนแห่งหนึ่งได้นำเด็กนักเรียน 6 คนมาปล่อยทิ้งไว้ที่ถนนซึ่งเวลานั้นเป็นเวลาตอนเที่ยงยังไม่เลิกเรียน และได้ทำร้ายเด็กนักเรียนจนเด็กนักเรียนผวาไม่กล้าไปโรงเรียน  จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ ตำบลด่านช้าง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู พบกับผู้ปกครองนักเรียน 5 คนมี 1. นางนิรมล มาลาศรี อายุ 43 ปี 2. นางทองใส นาคทอง อายุ 51 ปี 3. นางสำลี หางมนตรีอายุ 66 ปี 4. นางบัว พิมดี อายุ 81 ปี 5. นางกาญจน์ณิญาภา สุตตะพรม อายุ 57 ปี ทั้งหมดเป็นราษฎรตำบลด่านช้าง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู 

      โดยวันนี้ที่ห้องผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองด่าน นายกิตติวิทย์ เครือเพียกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองด่าน ได้เชิญ ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนทั้ง 5 คน ,ครูคู่กรณี ,กรรมการสถานศึกษา,พร้อมสื่อมวลชน เข้าร่วมรับฟังการเจรจาและหาข้อสรุป โดยได้ข้อสรุปว่าโรงเรียนจะได้ทำหนังสือเป็นรายลักษณะอักษรคาดโทษคุณครูผู้หญิง ที่สอนเด็กทั้ง 5 คน และให้เด็กนักเรียนทั้งหมดย้ายไปเรียนอีกห้องเพื่อให้ผู้ปกครองของเด็กได้สบายใจ  และทำให้เด็กกลับมาเรียนตามปกติ บรรยากาศโดยทั่วไปคุณครูคู่กรณีได้กล่าวขอโทษผู้ปกครองเด็กนักเรียน และกล่าวว่าที่ทำลงไปเพราะหวังดีกับเด็กนักเรียน ไม่มีเจตนาอื่น แต่ถ้าผิดพลาดไปก็ขอโทษขออภัยที่ผู้ปกครองที่ไม่ติดใจเอาเรื่อง และตนเองรับปากว่าจะปรับปรุงไม่ทำแบบนี้อีก

        จากนั้นนางกาญจน์ณิญาภา สุตตะพรม อายุ 57 ปี ตัวแทนผู้ปกครองเด็กนักเรียนได้กล่าวว่าหลังจาการเจรจาก็จบลงด้วยดี คุณครูก็ได้ออกมายอมรับผิด และทางผู้อำนวยการโรงเรียนก็ได้ทำตามที่ผู้ปกครองร้องข้อทุกเรื่องทางผู้ปกครองทุกคนก็ไม่ติดใจจะเอาเรื่องขอยุติเพียงแค่นี้

       ทางด้านนายศักดิ์สิทธิ์ พูลพุทธา ผู้ใหญ่บ้านหนองด่านหมู่ที่ 5 และเป็นกรรมการสถานศึกษาได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าหลังจากที่เห็นข่าวทางสื่อมวลชนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ประสานผู้อำนวยการโรงเรียน และกลุ่มผู้ปกครองนักเรียนมาพูดคุยเจรจาหาข้อยุติเพราะชุมชนบ้านหนองด่าน เป็นชุมชนใหญ่ผู้คนในชุมชน ถือว่าเป็นพี่น้องกันที่ผ่านมาก็รักใคร่กันช่วยเหลืองานชุมชนมาตลอด ตนเองไม่อยากเห็นความแตกแยก จึงได้ประสานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยกัน จนหาข้อยุติได้ ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ลงมาจับมือกันพูดคุยกันจนเรื่องราวได้จบลงด้วยดีในครั้งนี้ ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป