ผงะเจ้าหน้าที่บุกตรวจยึดไม้สร้างกิโยตินที่พระใช้ตัดหัวฆ่าตัวตายซุกที่พักสงฆ์แห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานีพบภาพคนงานกำลังก่อสร้างเครื่องในวันงาน  

      

เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู นำโดย พ.ต.ท.เจษฎา  ศรีกวนชา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองหนองบัวลำภู ,พ.ต.ท.สมคิด ชื่นชม สว.สส.สภ.เมืองหนองบัวลำภู พร้อมชุดสืบสวน ได้เดินทางไปที่ พักสงฆ์วัดป่าถ้ำเพียอินทร์ บ้านทับกุง หมู่ที่ 3 ต.ทับกุง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี พบชิ้นส่วนไม้และเหล็กที่ประกอบเครื่องกิโยติน เก็บอยู่ในโรงไม้ หลังจากที่พระธรรมกรได้ใช้เครื่องนี้ตัดคอตนเองฆ่าตัวตาย โดยมีพระสมพงษ์ เป็นผู้ดูแลสำนักสงฆ์แห่งนี้ และ ในวันที่ 14 เม.ย.2564 เป็นพระที่ทำการสึกให้กับพระธรรมกร ก่อนที่จะไปทำพิธีฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึด เหล็กกล่องขนาดด้านข้างกว้าง 2 นิ้ว ด้านบนกว้าง 4 นิ้ว ยาว 6 เมตร จำนวน 4 ท่อน และไม้ท่อนแปรรูปด้านข้างกว้าง 1.5 นิ้ว ด้านบนกว้าง 3 นิ้ว (ไม้หน้าสาม)ความยาว 3 เมตร 40 ท่อน และไม้ท่อนแปรรูปด้านข้างกว้าง 1.5นิ้ว ด้านบนกว้าง 3 นิ้ว ( ไม้หน้าสาม)  ยาว 1 เมตร 40 ท่อน เป็นที่หน้าสังเกตุว่า ชิ้นส่วนทั้งหมดไม่พบรอยเลือดแม้แต่หยดเดียว มีแต่รอยการตีตะปูและถอนออก จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำไม้ทั้งหมดมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเก็บของกลาง.สภ.เมืองหนองบัวลำภู 

    โดย พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู ได้กล่าวว่า ได้เซ็นคำสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นมาดูแลคดี ทั้งเรื่องสอบสวนและสืบสวน มี พ.ต.อ.กริช ปัตลา รอง ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู เป็นหัวหน้าคณะทำงาน โดยเร็วๆนี้จะมีการนำชิ้นส่วนไม้และเหล็กมาประกอบทำเครื่อง กิโยติน เพื่อจำลองเหตุการณ์ ที่พระธรรมกรได้ตัดเชือกให้ใบมีดหล่นลงมาตัดคอตนเองและล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ภาพผู้ที่ก่อสร้างเครื่องกิโยติน ในวันเกิดเหตุแล้วโดยจะออกหมายเรียกบุคคลทั้งหมดในภาพประมาณเกือบ 10 คน มีทั้งแต่งชุดขาว ,แต่งกายแบบบุคคลธรรมดา ,และแต่งกายคล้ายๆฤษี มาสอบปากคำ และจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดหนองบัวลำภู มาตรวจหาคราบเลือดเพื่อประกอบหลักฐานในสำนวนคดี

    และช่วงบ่ายของวันนี้ พ.อ.พุทธิวัฒน์ สิริพงศ์พล รอง ผอ.รมน.จังหวัดหนองบัวลำภ ,นายประยูร อรัญรุท นายอำเภอเมืองหนองบัวลำภู  พร้อมเจ้าหน้าที่ อส. ได้เดินทางไปที่พักสงฆ์ภูหินกอง นำผ้าขาวมาพันรอบๆรูปปั่นคล้ายๆพระอินทร์ที่มีลักษณะหัวขาด เพื่อรอทางคณะกรรมการของจังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู  แต่งตั้งขึ้นมาว่าจะดำเนินการอย่างไรกับรูปปั้นดังกล่าว ซึ่งล่าสุดก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าจะ เคลื่อนย้ายไปไว้ที่อื่น หรือทุบทำลาย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ทหาร จนถึงขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารมาชี้แจ้งเกี่ยวกับเรื่องการขออนุญาต หรือรังวัดพื้นที่แต่อย่างใด ว่าขอใช้พื้นที่กี่ไร่ แต่ที่ทราบมาทางพระธรรมกรได้เคยยื่นเรื่องไปแล้วเมื่อประมาณปี 2561 ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป