เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเหตุผูกคอตายปริศนาญาติติดใจการเสียชีวิตส่งศพผ่าพิสูจน์   

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสืบเนื่องเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 21.00 น.ได้รับแจ้งจากกู้ภัยร่วมใจนากลางว่า มีเหตุคนผูกคอเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 11 ตำบลด่านช้าง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู หลังจากนั้น ร.ต.อ.วีระยุทธ ทิพย์ลม พนักงานสอบสวน สภ.นากลาง,ชุดสืบสวน สภ.นากลาง,แพทย์เวรโรงพยาบาลนากลาง ,หน่วยกู้ภัยร่วมใจนากลาง รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบชายทราบชื่อภายหลังว่าคือนายสมัย กุลดวงจันทร์ อายุ 52 ปี ที่อยู่ 52/1 หมู่ 11 ตำบลด่านช้าง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู ใส่กางเกงกีฬาขาสั้นสีดำไม่สวมเสื้อ ใช้ผ้าขาวม้าต่อด้วยเชือกไนล่อนผูกคอเสียชีวิต ด้านหลังมีเชือกสีขาวคล้ายๆสายสิญจน์ มัดข้อมือทั้งสองข้างไขว้หลังไว้ และบริเวณศรีษะมีผ้าขนหนูคลุมอยู่ สภาพศพสูงจากพื้นดินประมาณ 50 เซนติเมตร ด้านข้างมีม้าหินอ่อน และใกล้ๆกันมีถังน้ำสีดำตะแคงล้มอยู่  ทราบว่าบ้านที่เกิดเหตุไม่ใช่บ้านของผู้ตายเป็นบ้านของนายสุนทร สุภกรรม ซึ่งนายสมัย กุลดวงจันทร์ ผู้ตายได้มาขออาศัยอยู่ด้วยได้ประมาณ 3 วันแล้ว ส่วนผู้ตายได้ออกจากคุกมาประมาณเกือบ 1 เดือน ในคดีพยายามฆ่า โดยทางญาติได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตจึงได้นำร่างส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น

       และในวันนี้ พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ จันทร์ไทยธชา  สว.สส.สภ.นากลาง พร้อมชุดสืบสวน,นายแสวง บัวใหญ่รักษา กำนันตำบลหนองด่าน,นายชาคริต กุลวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 บ้านด่านคำ ได้เดินทางไปที่บ้านหลังเกิดเหตุพบว่าต้นน้ำนมซึ่งเป็นต้นไม้ที่นายสมัย กุลดวงจันทร์ ผูกคอตาย ได้มีการตัดและขนไม้ไปเก็บไว้ที่วัดบ้านนากุดผึ้ง จากการสอบถามทราบว่าเจ้าอาวาสวัดได้สั่งให้คนมาตัดและนำไม้ไปไว้ที่วัดเพราะเป็นสิ่งที่ไม่เป็นมงคลกับบ้าน  และที่บ้านได้พบกับนายสุนทร สุภกรรม ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตนเองกับผู้ตายเมื่อปี 2555 เคยมีคดีความกันโดยนายสมัย กุลดวงจันทร์ ได้ใช้อาวุธมีดเข้าทำร้ายตนเอง แต่พลาดไปโดนหลาน ต้องเย็บที่โรงพยาบาลถึง 17 เข็ม ซึ่งนายสมัย กุลดวงจันทร์ ผู้ตาย มีศักด์เป็นหลานห่างๆของตนเองและล่าสุดตนเองได้ไปแถลงศาล ว่าไม่ติดใจเอาความผู้ตาย และได้ติดคุกมาระยะหนึ่งแล้วประกอบกับสงสารผู้ตายสุขภาพไม่ดีมีโรคประจำตัวในวันเกิดเหตุก็มาอาศัยกินข้าวหลับนอนอยู่ที่บ้านตนเอง

       ทางด้านนางสายสมร สุภกรรม บุตรสาวนายสุนทรฯ ได้กล่าวว่าวันเกิดเหตุตนกับพ่อได้ไปกินข้าวที่บ้านญาติโดยได้บอกให้ นายสมัย กุลดวงจันทร์ ผู้ตาย ว่าถ้าหิวข้าวก็ให้หุงข้าวในครัวกินได้เลย หรือไม่หิวก็รอก่อนจะเอากับข้าวที่บ้านงานกลับมาให้  แต่พอกลับมาถึงเดินเข้าไปในครัวซึ่งตอนนั้นยังไม่ทราบว่าผู้ตายได้ผูกคอตายที่ต้นไม้หน้าบ้าน พบว่าข้าวเหนียวที่แช่น้ำไว้ให้ผู้ตายๆก็ยังไม่ยอมมาหุง จึงได้พูดกับสามีว่าถ้าขี้เกียจแบบนี้จะอยู่ด้วยกันได้เหรอ สักพักสามีได้เดินไปเปิดไฟหน้าบ้านจึงร้องเรียกตนเองออกไปดู ถึงกับตกใจเห็นผู้ตายแขวนคออยู่ที่ต้นไม้เสียชีวิตแล้ว

       ส่วนทางด้านนายแสวง บัวใหญ่รักษา กำนันตำบลหนองด่าน ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่าผู้ตายมีครอบครัวมีบุตรแต่ว่าแยกย้ายไปอยู่ที่อื่นกันหมด ผู้ตายเคยเล่าให้ตัวเองฟังว่าเป็นโรคเบาหวานขาทั้งสองข้างเปื่อยเป็นแผลไม่สามารถรักษาได้ ทางหมอที่โรงพยาบาลแจ้งมาว่าให้ไปตรวจในเดือนพฤษภาคม 2564 คือเดือนนี้ และคุณหมอบอกว่าน่าจะได้ตัดขาบางส่วนที่เกิดอาการเน่าและอักเสบทิ้ง เลยจะทำให้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ผู้ตายเครียดซึ่งในเบื้องต้นได้รับแจ้งว่าจากการชันสูตรของแพทย์ตามร่างกายไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย ในร่างกายไม่มีสารพิษใดๆตัวเองคิดว่าไม่น่าจะเป็นการฆาตกรรม น่าจะเป็นการฆ่าตัวตายมากกว่า เพราะลักษณะการผูกเชือกที่แขนก็ผูกไม่แน่นเพียงแต่ พันไว้หลวมๆ ซึ่งผู้ตายสามารถทำได้ ส่วนทางคดีก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป