กู้ภัยโหดเปิดไฟไซเรนยกพวกรุมยำชายวัยรุ่นแจ้งข้อหาแล้วและทางสมาพันธ์อาสาสมัครกู้ภัยจังหวัดหนองบัวลำภูได้ออกชี้แจ้ง   

 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องได้รับแจ้งจากผู้ปกครองของชายวัยรุ่นอายุ 18 ปีว่า ได้มีกลุ่มกู้ภัยบุกเข้ามาทำร้ายหลานชายตนเองถึงในบ้าน ที่บ้านเลขที่ 2 หมู่ที่ 3บ้านตำแย ตำบลโพธิ์ชัย อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู คุณยายเพ็ญ สุนนท์ชัย อายุ 68 ปีได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ในวันเกิดเหตุตนเองได้นั่งอยู่ในบ้าน ส่วนหลานชายคือนายไทยภิพัฒ สุนนท์ชัย อายุ 18 ปี หรือน้องไทเกอร์ ซึ่งนั่งกินข้าวกับเพื่อนๆทั้งหมด 4 คน อยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 10 คน ขับรถกู้ภัยเปิดไซเลนมา 3 คัน จากนั้นชายฉกรรจ์ทั้งหมด ได้วิ่งเข้ามาในบ้านลงมือทำร้ายร่างกายหลานของตนเองและเพื่อนของหลานทั้งหมด 4 คน ตนเองเข้าไปยืนกันไว้ก็โดนชายฉกรรจ์ชนจนล้ม และลากหลานชายตนเองกับเพื่อน 4 คนขึ้นรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ รุ่นไทเกอร์ มีตะแกรงคอกด้านหลัง หมายเลขทะเบียน บธ 691 หนองบัวลำภู หลังทราบว่ารุมทำร้ายผิดคนจึงได้ปล่อยตัวออกมา และกู้ภัยทั้งหมดได้หลบหนีไป

       โดยในวันนี้นายอุทัย อินทร์บุ รองนายกเทศมนตรีเมืองหนองบัวลำภู ได้นำนายไทยภิพัฒ สุนนท์ชัย หรือน้องไทเกอร์ หลานชาย เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรเมืองหนองบัวลำภูโดยมี ร.ต.อ.ธราธิป ไชยรินทร์ พนักงานสอบสวนเวร สภ. เมืองหนองบัวลำภู สอบปากคำ  และขณะเดียวกันได้มีนางสาวแคท ลูกสาวเจ้าของหอพักมาพร้อมกับญาติเข้าแจ้งความ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาบุกรุกโดยได้นำภาพกล้องวงจรปิดมาเป็นหลักฐาน แจ้งข้อหาทั้งหมด 8 คนซึ่ง 1 ในนั้นมีนายไทยภิพัฒ สุนนท์ชัย หรือน้องไทเกอร์ รวมอยู่ด้วย ทางด้านนายอุทัย อินทร์บุ รองนายกเทศมนตรีเมืองหนองบัวลำภู ได้กล่าวว่าตรงนี้ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะสามารถเข้าแจ้งความได้ ถ้ามีพยานหลักฐานซึ่งตนเองคิดว่าเป็นเรื่องดีจะได้รู้กันว่า  ใครพูดความจริงหรือพูดความเท็จ  เพราะการแจ้งความข้อหาบุกรุกจะต้องดูที่เจตนา ตนเองได้สอบถามหลานชายแล้วในวันเกิดเหตุ ได้ไปหอพักดังกล่าวจริง 1 ใน 8 คนเพื่อนของหลานชาย พี่ชายเป็นคนบ้านเดียวกันได้มาเช่าห้องพักอยู่ตรงนั้น และหอพักดังกล่าวเปิดมาใครๆก็สามารถเดินเข้าออกได้ตลอดเวลาไปหาเพื่อนหรือไปหาญาติ และพอไปถึงหลานชายของตนเองก็นั่งอยู่ที่ด้านหน้า ไม่ได้ไปสร้างความเดือนร้อนหรือก่อเหตุร้ายแต่อย่างใด โดยเพื่อนที่มาด้วยรถจักรยานยนต์ไม่มีที่นั่ง  หลานชายของตนเองจึงอาสาขับรถพาเพื่อนไป แต่ไม่ทราบว่าเพื่อนในกลุ่มจะเข้าไปคุยปรับความเข้าใจกับรุ่นน้องซึ่งมีปัญหาคาใจกันบางอย่างซึ่งตรงนี้ตนเองก็ไม่ทราบ  และหลังจากนั้นได้มีชายเจ้าของหอพักได้เห็นก็เดินมาไล่พวกหลานตนเองและเพื่อนๆให้ออกไป ทั้งหมดก็เดินทางกลับออกมาโดยดีไม่มีการโต้เถียงอะไร หรือก่อเหตุร้ายอะไร เพราะดูแล้วขาดเจตนาที่จะไปบุกรุก ซึ่งต่างกันกับลูกสาวและลูกเขยเจ้าของหอพัก ได้ตั้งใจยกพวกมารุมทำร้ายหลานตนเองถึงในบ้านและเป็นเวลากลางคืน ส่วนเจ้าของหอได้กล่าวอ้างว่ามีใครไปเขวี้ยงขวดใส่ที่หอพัก ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวคนที่ปาขวดแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ได้ขาดช่วงไม่เกี่ยวกันกับหลานชายตนเอง โดยชายคนที่ไปเขวี้ยงขวดก็พร้อมที่จะเข้ามอบตัว ตรงนี้ผู้ตัดสินชี้ขาดก็อยู่ที่ศาลสถิตย์ยุติธรรมจะเป็นผู้ตัดสิน  ตนเองได้ตั้งทีมทนายความเพื่อต่อสู้คดีพิสูจน์ความจริงให้หลานของตนเองแล้ว  ถ้าศาลตัดสินว่าหลานตนเองไม่ผิดพยานหลักฐานไม่เพียงพอยกฟ้อง  ตนเองก็จะฟ้องกลับใช้สิทธิ์ในข้อกฏหมายเช่นกัน

       และในวันนี้ทางสมาพันธ์อาสากู้ภัยจังหวัดหนองบัวลำภู มีนายวรวิทย์ สุวรรณละ นายกสมาคมกู้ภัยนเรศวรหนองบัวลำภู ,นายศุภวัชช บุญไชย เลขาธิการสมาคมหนองบัวลำภูการกุศล หรือกู้ภัยคุณธรรมหนองบัวลำภู ได้ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า บุคคลทั้ง 2 คนที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดียกพวกไปรุมทำร้ายหลานชายรองนายกเทศมนตรีเมืองหนองบัวลำภูนั้น  เคยเข้ามาสมัครเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยจริงแต่ได้ลาออกไป  จากสมาคมกู้ภัยนเรศวรจังหวัดหนองบัวลำภูแล้ว ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2563 โดยนายวรวิทย์ สุวรรณละ นายกสมาคมกู้ภัยนเรศวรหนองบัวลำภู ได้นำเอกสารหลักฐานใบลาออกมาแสดงให้กับผู้สื่อข่าวดูเป็นฉบับจริง และได้กล่าวต่อว่าซึ่งตอนนี้พี่น้องประชาชนในจังหวัดหนองบัวลำภู  เกิดความสับสนเข้าใจผิดว่าบุคคลกลุ่มดังกล่าวที่ไปก่อเหตุ  ได้สังกัดสมาพันธ์อาสากู้ภัยจังหวัดหนองบัวลำภู  ขอชี้แจงว่าทั้ง 2 คนไม่ได้เกี่ยวข้องกับสมาพันธ์ฯแต่อย่างใด  และตรงนี้ทางสมาพันธ์อาสากู้ภัยจังหวัดหนองบัวลำภู ได้รับความเสียหายทางกลุ่มจะได้ปรึกษาทีมกฎหมายเพื่อจะดำเนินการต่อไป  และเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของกู้ภัยทุกชุดในจังหวัดหนองบัวลำภู  ซึ่งที่ผ่านมาทางสมาพันธ์ฯได้อุทิศตนเองทำงานจิตอาสาเป็นที่ประจักษ์แก่พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดหนองบัวลำภู โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

       ทางด้าน ร.ต.อ.ธราธิป ไชยรินทร์ พนักงานสอบสวนเวร สภ. เมืองหนองบัวลำภู ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา 1.ทำร้ายร่างกายผู้อื่น 2. บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืนหรือยามวิกาล 3. ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ และจะได้ตรวจสอบว่ารถกู้ภัยที่เป็นพาหนะในการก่อเหตุทั้งหมดได้มีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่  และการใช้ไฟฉุกเฉิน ส่วนข้อหาต่างๆที่จะตั้งเพิ่มต้องดูในหลักฐานจากแพทย์โรงพยาบาลหนองบัวลำภูว่าลงวินิจฉัย บาดแผลของผู้เสียหายว่ารักษาหายได้ภายในกี่วัน  จะบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ เพราตอนนี้ตาด้านขวาของผู้เสียหาย ข้างในตายังมีเลือดออกอยู่ ยังจะได้เก็บรายละเอียดรวบรวมหลักฐานทั้งหมดแจ้งข้อหาเพิ่มต่อไป  ซึ่งในคลิปวีดีโอ มีฝ่ายนิติกรของสำนักงานเทศบาลเมืองหนองบัวลำภู อยู่บ้านติดกับหลังที่เกิดเหตุ ได้บันทึกวีดีโอไว้ ได้มีการพูดแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพกพาอาวุธปืนไปด้วย  ถ้าเกิดเข้าข้อหาการกระทำผิดในข้อใด   ทางพนักงานสอบสวนจะได้แจ้งข้อหาเพิ่ม  และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่ผู้บังคับบัญชาและสังคมทั่วไปให้ความสนใจ  ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป