ผู้อำนวยการโรงเรียนตีลูกศิษย์ชั้นป 6 ผู้ปกครองพร้อมคณะกรรมการสถานศึกษาและฝ่ายนิติกรไกล่เกลี่ยจบลงด้วยดี
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสืบเนื่องนางสาวนุชจรี สีมาวงค์ อายุ 35 ปี ที่อยู่ 59 หมู่ที่ 10 ตำบลเก่ากลอย อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นผู้ปกครองของเด็กชายเอ (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.จำลอง ยะหัวดง พนักงานสอบสวน สภ.นากลาง ว่าบุตรชายของตนเองเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู บุตรชายของตนเองได้ขออนุญาตคุณครูออกนอกห้องไปพร้อมกับเพื่อนๆ เพื่อไปล้างมือเพราะว่าหลังจากที่ทำงานตามที่คุณครูสั่งมือได้เปื้อนลิควิด หลังจากที่ล้างมือเสร็จ จะเดินกลับห้องเรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ได้เห็นบุตรชายจึงได้เรียกบุตรชายตนเองเข้าไปหา แล้วบอกว่าคุณครูแอบดูเธอมานานแล้วทำไมถึงออกมานอกห้องเรียน หลังจากนั้นจึงให้บุตรชายของตนเองไปยืนกอดเสา และได้ใช้ด้ามไม้กวาดตีเข้าที่บริเวณใต้สะโพกด้านขวา 1 ครั้ง จนเป็นรอยช้ำเลือดช้ำหนอง จึงได้ปรึกษาทางญาติและแจ้งสื่อมวลชนทราบ และเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าว
โดยในวันนี้ที่ ห้องประชุมโรงเรียนบ้านขอบเหล็ก ต.เก่ากลอย อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู นายจันทร์ ช่างทองคำ ประธานกรรมการสถานศึกษาพร้อมด้วยคณะกรรมการ ,นายศุภชาญ พันธ์โสภณ นิติกรสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 2 ,นายชัยยะ ภูกงลี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านขอบเหล็ก,นางสาวนุชจรี สีมาวงค์ ผู้ปกครองนักเรียนพร้อมญาติ ได้ประชุมด้วยความเคร่งเครียดกว่า 1 ชั่วโมงจึงหาข้อสรุปได้ โดยนายชัยยะ ภูกงลี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านขอบเหล็ก ได้ให้สัมภาษณ์ว่าได้ทำโทษเด็กชายชั้น ป.6 จริงแต่ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีเจตนาอย่างอื่น ซึ่งกะว่าจะตีเข้าที่บริเวณเข็มขัด เพื่อจะลดแรงปะทะ แต่ผิดจุดทำให้พลาดเลื่อนลงไปที่บริเวณสะโพกทำให้เกิดรอยช้ำดังกล่าว หลังจากพูดคุยกับทางผู้ปกครองแล้วก็เข้าใจกันดี โดยผู้ปกครองไม่ได้ติดใจจะดำเนินการใดๆต่อ ส่วนตนเองก็เสียขวัญบ้าง แต่ก็จะทำหน้าที่ดูแลบุตรหลาน และอบรมสั่งสอนให้ลูกๆทุกคนมีความรู้เพื่อเป็นคนดีของสังคมต่อไป
ทางด้านนางสาวนุชจรี สีมาวงค์ ผู้ปกครองนักเรียน ได้กล่าวว่าหลังจากได้พูดคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านขอบเหล็ก ก็ได้สบายใจขึ้น และเข้าใจกัน ซึ่งตนเองคิดว่าครูบาอาจารย์ก็คงอยากจะสั่งสอนให้ลูกศิษย์เป็นคนดี อาจจะพลั้งมือไปบ้าง แต่ตนเองดูเจตนาแล้วไม่น่าจะตีด้วยเหตุผลอื่น บางที่บุตรชายของตนเองก็อาจจะดื้อบ้างตามปะสาเด็ก หลังจากนั้นตนเองก็จะได้เดินทางไปถอนแจ้งความ และไม่ประสงค์จะดำเนินคดีทั้งทางเพ่งและทางอาญา ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป