วอนช่วยเหลือชาย 52 ปีโดนรถหลวงชนไหปลาร้าหักเลือดออกในสมอง 4 ชีวิตลำบากต้องไปขอนมที่วัดมาให้ลูกกินประทังชีวิต  

       เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับแจ้งมีชายถูกรถยนต์หลวงของหน่วยงานท้องถิ่นแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองบัวลำภูเฉี่ยวชน ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2565 ร่วม 2 เดือนแล้ว ชายคนดังกล่าวไหปลาร้าหัก เลือดออกในสมอง ไม่สามารถทำงานได้ ไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกินต้องไปขอนมที่วัดมาให้กินพอยังชีพไปวันๆ  หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบพบนายวันชัย ถิ่นสำโรง อายุ 52 ปี ที่อยู่ 287 หมู่ 4 บ้านโนนสวรรค์ ตำบลหัวนา อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู 39000 สภาพบ้านเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูง อาศัยอยู่ทั้งหมด 4 ชีวิต มีนางสาวมะลิ โสรัจจะเยี่ยม อายุ 37 ปี และมีบุตรชาย 2 คน คนโตอายุ 6 ปี คนที่ 2 อายุ 1 ปี 6 เดือน

     โดยนายวันชัย ถิ่นสำโรง ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ตนเองมีอาชีพขับรถส่งน้ำดื่มโดยในวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 13.20 น.ตนเองได้ขับรถออกมาจากบ้านพร้อมกับภรรยาโดยไปส่งน้ำดื่มที่บริเวณบ้านลาด หมู่ที่ 9 ตำบลป่าไม้งาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู โดยตนเองได้ขับรถยนต์จอดริมถนน ลงจากรถและได้แบกถังน้ำเพื่อจะข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง หลังจากนั้นตนเองได้มองดูทั้งซ้ายและขวาแล้วว่าไม่มีรถมา ตนเองจึงได้แบกถังน้ำเดินข้ามถนน ไปถึงริมถนนอีกฝั่งหนึ่งแล้ว ต่อมาได้มีรถกระบะมาทราบตอนหลังว่าเป็นรถของหน่วยงานราชการท้องถิ่นแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองบัวลำภู ขับมาชนตนเองอย่างแรงกระเด็นไปเกือบ 10 เมตร จนผู้ที่เห็นเหตุการณ์คิดว่าตนเองเสียชีวิตแล้ว 

     หลังจากนั้นตนเองไม่รู้สึกตัวโดยมีนางมะลิฯ ภรรยา และพลเมืองดีได้เรียกรถกู้ชีพกู้ภัยนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภู โดยทางหมอได้ใช้เชือกดามบริเวณไหปลาร้าด้านซ้ายที่หัก พอกลับมาอยู่ที่บ้านก็ไม่สามารถทำงานหนักได้ อยู่มาสักระยะตนเองปวดหัวและอาเจียนออกมา ทนไม่ไหวจึงกลับไปหาหมอที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภูอีกครั้ง โดยคุณหมอได้เอกซเรย์ และพบว่าตนเองมีเลือดออกในสมอง จึงได้ให้ยาแล้วกลับมารักษาตัวที่บ้าน หลังจากนั้นได้มีคนขับรถหลวง คันที่ชนตนเองมาเยี่ยมพร้อมกับพี่สาว โดยมามอบเงินค่าทำขวัญให้เป็นเงิน 7,000 บาท โดยระหว่างที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลฯพี่สาวของชายคนขับรถที่ชนตนเอง  ก็ได้มาดูแลตนเองเป็นอย่างดี  ต่อมาได้มีผู้บริหารขององค์กรท้องถิ่นที่นั่งมาในรถยนต์วันที่เกิดเหตุมาชนตนเอง ได้มาเยี่ยมสอบถามอาการ ได้มอบถุงยังชีพ พร้อมเงินให้กับตนเองเป็นเงิน 5,000 บาท และให้ค่ายาที่ตนเองจ่ายไป 2,400 บาท และมาให้ตอนหลังอีก 2,000 บาท รวมทั้งหมดเป็นเงิน 9,400 บาท แต่จนถึงเดี๋ยวนี้เป็นเวลา 2 เดือน เงินที่ได้มาซื้อข้าวเลี้ยงลูกกับภรรยาจนหมด ตนเองกับภรรยาทนอดได้ แต่ลูกชาย 2 คน บางวันต้องไปขอนมที่วัดบ้าง ที่โรงเรียนใกล้บ้านบ้างมาให้ลูกชายดื่มพอได้ประทังชีพไปวันๆ

     โดยทุกวันนี้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบากตนเองเป็นเสาหลักของครอบครัว ไปรับน้ำมาถังละ 6 บาท ไปขายถังละ 12 บาท ได้กำไรถังละ 6 บาท ไหนจะค่าน้ำมัน เมื่อก่อนมีรายได้วันละ 300-400 บาท พอได้ยังชีพดูแล 4 ชีวิต แต่พอตนเองมาประสบอุบัติเหตุก็ไม่สามารถที่จะขับรถออกไปส่งน้ำได้ บริเวณไหปลาร้าด้านซ้ายที่หัก ก็ยังไม่หายดีมีอาการเจ็บอยู่ตลอดเวลา จึงวอนผู้ใจบุญอยากช่วยเหลือสามารถนำสิ่งของมามอบให้ตนเองที่บ้านได้ หรือโทรมาสอบถามได้ที่เบอร์ 082 114 8868

     โดยนางสาวมะลิ โสรัจจะเยี่ยม ภรรยา ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า หลังจากช่วงที่เกิดเหตุ ได้มีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานเจ้าของรถหลวง โทรศัพท์มาหาตนเองว่าจะออกมาสอบปากคำที่บ้าน ตนเองก็ตกใจเพราะมีเจ้าหน้าที่แจ้งว่าทรัพย์สินของหลวงเสียหาย ตำรวจก็ยังไม่มาสอบปากคำว่าใครผิดใครถูก ทุกวันนี้ข้าวจะกินก็ไม่มีแล้วจะเอาเงินที่ไหนไปซ่อมรถให้ ทั้งที่สามีตนเองเดินข้ามถนนมาจนพ้นอีกฝั่งถนนนแล้ว ตนเองโชคดีมีผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพขณะเกิดเหตุนำมามอบให้ และพร้อมที่จะมาเป็นพยาน ตนเองไม่รู้ว่าจะไปพึ่งใครจึงวอนขอความเมตตากับสื่อมวลชนให้เป็นสื่อกลางขอความช่วยเหลือ

       หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ประสานไปที่ร้อยตำรวจเอกสุรชัย ไชยทองรัตน์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองหนองบัวลำภู เจ้าของคดี ได้แจ้งว่า เหตุดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 24 พ.ค.2565 เวลาประมาณ 13.20 น.จากนั้นจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่ ถนนสายหนองบัวลำภู - บ้านสร้างเสี่ยน บ้านลาด หมู่ที่ 9 ตำบลป่าไม้งาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู โดยผู้บาดเจ็บพลเมืองดีได้นำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภูแล้ว มีนายณรงค์ ฯ คนขับรถหลวงคันที่ก่อเหตุ มาแสดงตนเป็นผู้ขับขี่ แต่ตนเองยังไม่ได้สอบปากคำใคร กำลังรอหนังสือจากทางหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่นายณรงค์ฯ ทำงานอยู่ และยังหาข้อสรุปมิได้ว่าใครผิดใครถูก ช่วงนี้อยู่ในขั้นตอนของการไกล่เกลี่ย ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป

#ภาพ/ข่าวและเนื้อหานี้ เป็นการใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่องานประชาสัมพันธ์ ไม่แสวงหาผลกำไรในทางการค้า