นายอำเภอนากลางลงพื้นที่เร่งช่วยเหลือ 4 ชีวิตนอนรอความหวังผู้สื่อข่าวตรวจสอบยืนยันสามีนางหนูเกียงฯเป็นคนจิตอาสา  

    

เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องได้รับแจ้งมีคุณยายอายุ 61 ปี อยู่บ้านพรชัย ตำบลกุดแห่ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย มีคุณตาเฝ้าดูแล โดยลูกสาวได้เสียชีวิตทิ้งหลานและเหลนไว้ให้เลี้ยง ห้องน้ำอยู่ไกลตัวบ้านจะเข้าห้องน้ำที เลือดไหลออกจากแผล ทนทุกข์ทรมาน อดมื้อกินมื้อวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ คือนายบุญจันทร์ ศิริ อายุ 65 ปี และนางหนูเกียง ศิริ อายุ 61 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 128/3 หมู่ 9 บ้านพรชัย ตำบลกุดแห่ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู 39170 สภาพบ้านเป็นปูนชั้นเดียวยังไม่ฉาบ และฝาผนังใช้สังกะสีตีปิดทับบังแดดบังฝน หลังคาบ้านรั่วเป็นบางจุด ส่วนพื้นบ้านเป็นดินไม่ได้ลาดปูน ห้องน้ำอยู่ไกลจากตัวบ้านประมาณ 10 เมตร

    และในวันนี้ นายทศพล จักรบุญมา นายอำเภอนากลาง ได้ร่วมประชุมและลงพื้นที่ร่วมกับ อบต.กุดแห่ เพื่อหาแนวทางให้ความช่วยเหลือในเรื่องเร่งด่วน โดยข้อสรุปในระยะเร่งด่วน คือให้ อบต.กุดแห่ เร่งประชุมคณะกรรมการช่วยเหลือฯ ตามระเบียบการช่วยเหลือของ อปท. เพื่อจะใช้งบประมาณของท้องถิ่นที่สามารถเบิกจ่ายได้ ร่วมกับเงินบริจาคจากภาคเอกชน หน่วยงานต่างๆและภาคประชาชน เพื่อสร้างห้องน้ำ และเทปูนพื้นบ้านให้กับครอบครัวดังกล่าวก่อน และจะได้ประสานหน่วยงานที่้เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือในด้านอื่นๆต่อไป

    และมีการรายงานของหน่วยงานหนึ่งในจังหวัดหนองบัวลำภู แจ้งในกลุ่มไลน์และมีการแชร์ออกไปอย่างกว้างขวางสร้างความเสียหายให้กับ นายบุญจันทร์ ศิริ ผู้เป็นสามีของนางหนูเกียง ศิริ ผู้ป่วยและยากไร้ว่า นายบุญจันทร์ฯ มีพฤติกรรมเกียจคร้าน เกี่ยงงานทำให้ไม่มีผู้จ้างงาน มีเพียงภรรยาก่อนที่จะป่วยเป็นโรคมะเร็ง ขยันทำงานหาเลี้ยงครอบครัว

   หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ไปสืบหาข้อเท็จจริงอีกครั้งทราบว่า นายบุญจันทร์ ศิริ ไม่ได้เป็นไปตามที่หน่วยงานหนึ่งรายงาน แต่อย่างใด เป็นการรายงานเท็จ ดูถูก เหยียดหยาม ทำให้อับอาย ทำให้เสียหาย เป็นที่เกลียดชัง แต่ตรงกันข้าม นายบุญจันทร์ ศิริ กับเป็นคนจิตอาสาขยันขันแข็ง ชอบทำงานช่วยเหลือชุมชน ถึงแม้จะไม่ได้เงินค่าจ้างก็ทำ หมู่บ้านอื่นขาดแรงงาน นายบุญจันทร์ ศิริ ก็ขันอาสาไปช่วยทุกครั้ง จนผู้นำชุมชนสงสาร ได้ให้ญาติ ให้เงินนายบุญจันทร์ฯ ยืมเป็นค่ารถพานางหนูเกียง ฯภรรยาไปหาหมอ เป็นเงิน 20,000 กว่าบาท โดยไม่มีการเร่งรัดหรือทวงถาม เพื่อจะเอาเงินคืนแต่อย่างใด ถ้าเป็นคนเกียจคร้าน ดังที่หน่วยงานหนึ่งรายงาน ญาติของผู้นำชุมชน คงไม่กล้าให้ยืมเงินมากขนาดนั้น และไม่ทราบว่าจะได้เงินคืนเมื่อไหร่อีกด้วยด้วย

     โดยนางสาวกรรณิการ์ สุวรรณสุขา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลกุดแห่ ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า   มีครั้งหนึ่งในหมู่บ้านมีงบอยู่ 300 บาท เนื้องานคือต้องขุดฝั่งท่อ ซึ่งลึกมากๆ ไปจ้างใครก็ไม่มีใครรับทำ เพราะว่างานหนักได้เงินไม่คุ้ม และต้องทำหลายวัน แต่นายบุญจันทร์ฯขันอาสาทำให้จนแล้วเสร็จ ขุดอยู่ 3 วัน สรุปได้ค่าแรงวันละ 100 บาท เพื่อหาเงินมาซื้อข้าวให้ภรรยาที่ป่วย และหลานได้กิน แต่พอภรรยาล้มป่วย จึงไม่สามารถไปทำงานได้ ต้องดูแลภรรยาอยู่ไม่ห่าง ต้องพยุงเข้าห้องน้ำที่ไกลจากตัวบ้าน,ต้องดูแลหลานและเหลนน้อย

    ซึ่งในเบื้องต้นทางกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์หนองบัวลำภูนิวส์ จะได้ปรึกษาฝ่ายกฎหมายเพื่อจะดำเนินการปกป้องสิทธิ์ ของนายบุญจันทร์ ศิริ ที่ถูกดูหมิ่นในครั้งนี้ต่อไป

#ภาพ/ข่าวและเนื้อหานี้ เป็นการใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่องานประชาสัมพันธ์ ไม่แสวงหาผลกำไรในทางการค้า.